The Quarry ขาโจ๋ท้าตายค่ายหฤโหด

เมื่อทริปหน้าร้อนแปลงเป็นแดนนรกที่เหล่าวัยรุ่นจะต้องจำกระทั่งวันตาย
แม้ไม่เคยมีสถานะการณ์การแพร่ระบาดเกิดขึ้น หนึ่งในสิ่งที่วัยรุ่นผู้คนจำนวนมากจำต้องทำหลังจากจบการศึกษาอาจจะเป็นอะไรไปมิได้นอกเหนือจากการท่องเที่ยวให้สุดฤทธิ์สุดเดชเพื่อทิ้งทวนก่อนที่จะแยกย้ายกันไปเรียนในระดับอุดมศึกษา แต่ว่าถ้าจะเป็นเพียงแค่ทริปปกติมันก็น่าจะแข็งทื่อกันกระทั่งเกินความจำเป็น เพราะฉะนั้นภาพยนตร์สยองขวัญหลายๆเรื่องก็ชอบเสนอเรื่องใกล้ตัวอย่างงี้มาดัดแปลงให้เปลี่ยนเป็นเรื่องราวสุดสะเทือนใจอยู่หลายครั้ง เหมือนกันกับ The Quarry จะว่า The Quarry เป็นผู้สืบทอดของ Until Dawn ก็อาจจะไม่ผิดแผกไป ด้วยเหตุว่ารอบนี้ Supermassive Games ได้ทำการบ้านรวมทั้งสั่งสมความคิดที่ปรับปรุงเกมแนวอินเทอแรกครั้งฟกันมาอย่างนานจนกระทั่งแปลงเป็นผลงานโปรดักชั่นระดับมโหฬาร เพราะว่ารอบนี้เองจะมิได้เป็นเกมสเกลเล็กๆราวกับ The Dark Pictures ที่วนเวียนกับนักแสดงน้อยแค่นั้น แม้กระนั้นยังเพิ่มให้พวกเราได้ยุ่งกันขึ้นไปอีก ซึ่งวันนี้เอง ThisIsGame Thailand ก็ได้รับช่องทางอันดีจาก 2K Games สำหรับเพื่อการรีวิวเกมนี้เพื่อนำความซาบซึ้งมาบอกกล่าวกับแฟนคลับกันด้วย แม้กระนั้นจะคืออะไรบ้างนั้นว่าแล้วอย่ารอคอยช้ามาติดตามร่วมกันด้านล่างนี้เลยขอรับ
【ก้าวแรกสู่ค่ายพักแรมหน้าร้อน】
ผู้เรียนกรุ๊ปหนึ่งได้พักร้อนกันอย่างเบิกบานสุดฤทธิ์ที่ค่าย Hackett’s Quarry Summer จนตราบเท่าวันสุดท้ายรถยนต์กำเนิดเสียขึ้นมา ทุกคนก็เลยตกลงใจพักกันต่ออีกคืนวันหนึ่ง เท่านั้นยังไม่พอก็ยังมานั่งก่อกองไฟเล่นกันอีกโดยที่ไม่มีผู้ใดทราบเลยว่าพวกเขาถูกสายตาจ้องอยู่ เพียงแค่เกริ่นนำเพียงเท่านี้ก็เชิญชวนขนหัวลุกจะห่วยกันแล้ว ซึ่งจำต้องบอกเลยว่ายังเป็นคอนเซปต์ที่ให้อารมณ์แบบคล้ายกับ Until Dawn ที่มีความเป็นหนังวัยรุ่น – สยองขวัญ เหมือนกันกับส่วนประกอบสุดหลอนผสมกับการหักมุมที่ไม่ขอสปอยล์เข้ามา แต่ว่าสิ่งที่แปรไปจากผลงานเดิมๆก็คือพวกเราจะสัมผัสได้ถึงความ 80 – 90 อยู่ในธีมของเรื่องราวถึงแม้ว่าเป็นตอนเวลาตอนนี้ ที่ตรงนี้นับได้ว่าเป็นความแปลกใหม่ที่ได้รสเข้ามา
【เกมเพลย์】
แม้คนไหนกันแน่เป็นแฟนเกมของค่าย Supermassive Games อยู่และก็จะไม่จำเป็นที่จะต้องใช้เวลาเรียนรู้มากเท่าไร ด้วยเหตุว่าเกมนี้จะมีการถ่ายทอดในลักษณะของการเป็นสื่อภาพยนตร์เชิงตอบโต้ ผู้เล่นจะได้ควบคุมเป็นตัวละครรวมทั้งได้โอกาสสำหรับการทำสิ่งต่างๆเอง นอกเหนือจากการเลือกตอบปัญหาและจากนั้นก็จะมีการเดินตามหาเค้าเงื่อนเรื่องมีความเกี่ยวข้องกับสิ่งรอบตัว อาจจะค้นพบความลับในรูปของไพ่ทาโรต์ที่มีประโยชน์ระหว่างการเล่นก็ได้ และก็ที่พูดว่ามีประโยชน์ก็ซึ่งก็คือคุณประโยชน์จริงๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่อยากที่จะให้ฉากจบออกมาเหมาะสมที่สุดด้วยเหตุว่าทุกความประพฤติปฏิบัติล้วนมีผลต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้านหน้านอกจากบางคัตซีนจะมีเกมเพลย์พวก QTE ให้พวกเราเสียวซ่านสันหลังกันเล่นๆและก็ส่วนใหญ่ไอ้ตรงเนี้ยะก็จะชี้เป็นชี้แน่นอนละครแบบเดียวกันด้วยเหตุว่าหากปฏิบัติดีเลือกตอบดีตลอดมา แม้กระนั้นมาปิ๋วกับความเลินเล่อบางส่วนก็อาจส่งผลให้ผู้แสดงที่พวกเราเล่นอยู่คอเลิกกันได้อย่างง่ายๆและก็ยังมีระบบระเบียบที่รองรับการเล่นแบบมัลติเพลเยอร์ที่นานาประการได้แก่เดิม อีกทั้งการสับเปลี่ยนคิวเล่นกันในแบบออฟไลน์ หรือจะเข้าสู่โหมดออนไลน์ซึ่งที่ตรงนี้จะไม่เหมือนกับ The Dark Pictures ที่มีโหมดเล่นเรื่องราวพร้อม เพราะว่ามีเพียงแต่โหมดเดียวเป็นให้ผู้ที่หน้าจอยเกมเป็นคนโหวตลู่ทางต่างๆในส่วนของโหมดออนไลน์อันนี้ไม่ขอให้ความคิดเห็นเพิ่มอีกแล้วกันเพราะว่าพื้นฐานยังคงอยู่ในแนวทางการปรับปรุงอยู่
【ถึงเวลาตกลงใจ】
อย่างที่รู้กันว่าเกมในเครือนี้มักอาศัยการตัดสินใจเป็นเรื่องจำเป็น ซึ่ง The Quarry ก็ดังเช่นเดิมเนื่องจากว่าผู้เล่นจะพบกับชอยส์ตัวเลือกต่างๆอยู่หลายครั้ง โดยมิได้มีแค่เพียงการเลือกทางความประพฤติแค่นั้น แต่ว่ายังมีการเลือกตอบปัญหาเมื่อคุยกับนักแสดงอื่นๆด้วย ในเคสข้างหลังนี่จะมีหน้าที่เป็นพิเศษด้วยเหตุว่าเกมพรีเซนเทชั่นระบบ ‘ความเกี่ยวเนื่อง‘ เข้ามา แล้วก็ทุกคนจะมีลักษณะนิสัย – ความสนิทติดเชื้อกับสหายในกรุ๊ปที่ต่างกัน ถ้าหากพวกเราไปประพฤติตนโหดเหี้ยมใส่คนใดกันแน่เอาไว้มากมายๆก็ระวังเอาไว้ให้ดีว่ามันจะมีผลอะไรคราวหลังแต่ภายหลังจากเล่นเกมจบแล้วพวกเราจะได้รับไอเทมพิเศษที่ให้โอกาสให้ผู้เล่นสามารถย้อนการตัดสินใจเมื่อผู้แสดงใดผู้แสดงหนึ่งตายได้สามครั้ง ฟังดูแล้วน่าจะเป็นประโยชน์ไม่น้อย แต่ให้เลือกดีๆเพราะว่าบางโอกาสมันบางทีก็อาจจะเป็นการตกลงใจก่อนหน้าที่ผ่านมาแล้วเป็นชั่วโมง นี่แหละขอรับเป็นความมันส์ เนื่องจากว่าครั้งคราวพวกเราไปทำอะไรไว้ตอนตอนต้นเกมแต่ว่าพึ่งจะมามีผลคราวหลังก็จะเชิญชวนให้มีความรู้สึกที่ Mindblown เป็นพิเศษ
【Movie Mode เพื่อนพ้องดวงใจ… ของคนใดกันที่ไม่กล้าเล่น】
โดยรวมแล้วถึงแม้ว่าเกมจะง่ายมากยิ่งขึ้น และไม่อาศัยการควบคุมมากแค่ไหน (จนกระทั่งแปลงเป็นข้อด้อยที่จะจำต้องบอกคราวหลัง) แม้กระนั้นอาจมีผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยที่อยากทราบเรื่องราวแต่ว่าก็ไม่กล้าเล่นเองเพราะว่าสักครู่จะหาเรื่องไปขว้างหน้าจอยเข้า หรือบางบุคคลบางครั้งอาจจะกังวลใจว่าแม้กดตัวโน่นตัวนี้พลาดแล้วก็จะมีผลให้จบเกมแบบไม่สวย รอบนี้ Supermassive Games ได้พรีเซนเทชั่นของใหม่เข้ามาด้วย (ว้าว!) มันก็คือ Movie Mode ที่มีรูปแบบของการนำไปใช้งานตามชื่อเลยเพราะว่าผู้เล่นสามารถทราบเรื่องราวทุกสิ่งตั้งแต่ต้นกระทั่งสิ้นสุดกันแบบไม่ต้องจับหน้าจอย แต่ทว่าจะเล่นเฉยๆอาจไม่สนุก เกมก็จะมีการแบ่งโหมดย่อยในส่วนนี้อีกสามแบบเป็น ให้รอดทุกคน, ให้ตายทุกคน รวมทั้งขึ้นแท่นผู้กำกับ รายการอาหารท้ายที่สุดเป็นดารานำชายของโหมดนี้เนื่องจากพวกเราจะเป็นคนชี้เป็นชี้ตายด้วยการปรับแก้ค่าความสนิทสนม นิสัยผู้แสดง ได้อย่างอิสระ ต้องการจะให้ทุกคนรอดด้วยความรู้สึกมองหน้ากันไม่ติด หรือสิ้นสุดกันแบบหวานอมขมกลืนก็เลือกได้เลย ช่วยเพิ่มมิติให้กับเรื่องราวก้าวหน้านักแล
【กราฟิกและก็เสียงประกอบ】
The Quarry มีความพิเศษตรงที่กราฟิกมีความสวยกว่า The Dark Pictures อย่างชัดเจน ซึ่งในเคสนั้นบางครั้งอาจจะเป็นเพราะเหตุว่าสเกลของโปรเจ็กต์ที่ค่อนข้างจะแตกต่าง โดยในส่วนของโมเดลนักแสดงที่ใช้ Face Model เป็นเค้าหน้าศิลปินจริงๆก็ทำออกมาได้ดิบได้ดี และอนิเมชั่นท่าทางการแสดงความเจ็บที่ทำออกมาได้สมจริงสมจัง เหมือนกันกับเสียงก็ยังคงตุ้งแช่กันอยู่ดังเดิม
【กำแพงที่ยังก้าวไม่พ้น】
โชคร้ายอย่างยิ่งที่ The Quarry แม้ว่าจะเป็นการกลับมาทำเกมโปรดักชั่นขนาดใหญ่ที่ใส่ของกันได้สุดกำลัง แต่ว่าก็มีจุดที่คิดว่ายังขาดตกบกพร่องอยู่ สิ่งแรกก็คือหัวข้อการไม่อาศัยการควบคุมที่ดูราวกับว่าจะอำนวยความสะดวกให้จนถึงเหลือเกินเพราะว่าแปลงเป็นว่าพวกเรามานั่งดูคัตซีนกันเสียมากกว่า แถมยังไม่อาจจะกดผ่านได้ ทำให้การเล่นในรอบลำดับที่สองเป็นต้นไปจำเป็นจะต้องกุมขมับกันมากกว่าเดิมเหตุเพราะกว่าพวกเราจะไปถึงจุดที่อยากพลาดท่าก็จำเป็นต้องรอคอยแล้วรอคอยเล่า (แถมยังไม่อาจจะเลือกซีนที่ต้องการไปได้อีก ซึ่งนับว่าน่าฉงนเป็นพิเศษ) รอยต่อมาก็เป็นการดำเนินเรื่องราวของเกมที่อาจเกิดจากว่าเกมมีความยาวมากมายทำให้จำเป็นต้องใช้เวลาในตอนเริ่มนานจนถึงแอบมีความคิดว่าเนือยไปครับผม ยิ่งกว่านั้นส่วนประกอบสำคัญอย่างผู้กล่าวคำบรรยายที่จะโผล่มาเรื่อยช่วงนี้เองแปลงเป็นว่ามองไม่น่าสนใจไปอย่างแปลกๆจากความประพฤติปฏิบัติของพี่สาวเอ็ง
【ผลสรุป】
สุดท้าย The Quarry ไม่ใช่เกมที่ห่วยแตก แม้กระนั้นก็มิได้เป็นการปรับปรุงอย่างก้าวกระโจนแม้ว่าจะเทียบกับทาง Until Dawn ที่มีโปรดักชั่นใหญ่เสมอกันก็ตาม ฉันใดดีแล้วตลอดการเล่นพวกเราก็มิได้รู้สึกเหมือนกับเกมเป็นเกมแนวอินเทอแรกครั้งฟแบบเดิมๆที่เปลี่ยนแปลงเรื่องราวกันเยอะแค่ไหน ด้วยส่วนประกอบความสดใหม่บางสิ่งที่เข้ามา ถึงจะมิได้เป็น Quality of Life ที่มองสำคัญมากนัก แม้กระนั้นก็ช่วยทำให้ประสบการณ์ที่ได้ค่อนข้างจะราบรื่น สำหรับโอกาสนี้ ThisIsGame Thailand ก็ขอขอบพระคุณ 2K Games อีกรอบที่ได้ให้พวกเรารีวิว The Quarry ซึ่งคนที่พึงพอใจก็สามารถหาซื้อได้แล้ววันนี้ทั้งยังบนเครื่องมือ PlayStation 5, PlayStation 4, Xbox Series X|S, Xbox One และก็ PC กล่าวได้ว่าสยดสยองกันได้ทุกเครื่อง ส่วนครั้งหน้าจะมีอะไรน่าดึงดูดมาฝากกันบ้างนั้น ว่าแล้วอย่าลืมติดตามกันที่นี่ครับผม