รีวิวเกมส์มาใหม่

เจ้าเหมียวสายลม แสบแก่นแก้วผจญดินแดนชุลมุน คอลเลกชั่นการรีมาสเตอร์เกมแนวตะลุยด่านแบบ 2.5D สมัย PS1

ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมาก่อนหน้านี้จะต้องสารภาพว่าสังเวียนของเกมแนว Action – Platformer นั้นออกจะเหงาหงอยเนื่องจากเหลือเพียงไม่กี่แฟรนไชส์ที่ยังโลดแล่นอยู่ แม้กระนั้นถ้าเกิดย้อนกลับไปในสมัย 90 เมื่อครั้งเทคโนโลยียังไม่เจริญราวกับตอนนี้ เกมจำพวกนี้นับว่าเป็นกุญแจที่จะนำเราเริ่มเดินทางไปเสี่ยงภัยในดินแดนอัศจรรย์หลายต่อหลายที่ หนึ่งในนั้นเป็นเกม Klonoa จากค่าย NAMCO ที่เดบิวต์กันบน PS1 ด้วยรูปร่างหน้าผู้แสดงนำที่มองเห็นปุบปับก็นึกออกกล้วยๆแถมยังมีกราฟิกแจ่มใส ผสมความเป็นสองมิติแล้วก็สามมิติได้อย่างพอดีทีเดียว Klonoa สร้างสีสันให้กับแฟนคลับฝั่ง Sony กันได้ไม่นานจนกระทั่งตอนต้นสมัย PS2 ต่อจากนั้นเกมก็ห่างหายจากแวดวงกันไป ก่อนที่จะกลับมาในแบบรีเมคอีกทีบนเครื่องเล่น Wii แม้กระนั้นโน่นก็ไม่ทำให้ความนิยมชมชอบกลับมาถึงจุดสุดยอดแบบวันคืนเก่าๆจนกระทั่งท้ายที่สุดซีรีส์นี้ก็หายต๋อมไปโดยบริบูรณ์ จนกระทั่งวันนี้ที่ผู้พัฒนาตกลงใจนำเรื่องราวของเจ้าเหมียวสายลมนี้กลับมาอีกทีใน Klonoa Phantasy Reverie Series คอลเลกชั่นที่เก็บรวบรวมภาค 1 – 2 มาไว้ร่วมกันในชุดเดียวแถมรีมาสเตอร์ให้ใหม่พร้อมสรรพซึ่งวันนี้เองเราก็ได้รับช่องทางจาก BANDAI NAMCO Entertainment Asia สำหรับการรีวิวเกมเพื่อนำมาแบ่งปันความตรึงใจกันด้วย แต่ทว่า Klonoa จะยัง นัว‘ อย่างเดิมไหมนั้น อาจจะจะต้องขอชวนติดตามด้านล่างนี้

สู่โลกที่ความฝัน

เริ่มแรกเลยขอชี้แนะก่อนว่า Klonoa ทั้งคู่ภาคแรกเป็นการเสี่ยงอันตรายในโลกที่ความฝันซึ่งพวกเราจะได้รับบทเป็นเจ้าตัวเอกที่ชื่อว่า Klonoa นั่นแหละ โดยในอาณาจักรที่ Phatomile ได้เกิดเหตุการณ์เมื่อมีเรือบินปัญหาตกลงมาจนกระทั่งพบว่าจุดตกของเรือบินนั้นมีเจ้าคนร้าย Ghadius อยู่เบื้องหน้าเบื้องหลัง ทำให้ตนเองที่มีพลังยิงลูกปืนที่ลม (จากปืนที่เหมือนแหวน เรียกปืนไปแล้วกันจะต้องเริ่มเดินทางไปต่อสู้เพื่อสกัดแนวทางครอบครองโลกนั่นเอง ส่วนภาคสองก็จะเป็นการเดินทางในโลกอีกมิติที่โดนซัมมอนไปเพื่อจัดการกับปัญหากันอีกอย่างเดิม แต่ว่าตัวร้ายจะเป็นวิญญาณของโจรสลัดหญิงสุดน่ากลัว ตัวเกมภาคแรกนั้นมีการนำภาค Wii ที่เป็นการรีเมคคราวแรกในปี 2008 มารีมาสเตอร์ใหม่พร้อมเปลี่ยนแปลงโมเดลรวมทั้งโทนสีของภาพที่เคยมองหม่นหมองกว่าจากการพยายามทำให้เหมือนจริงตอนนั้น ให้ผ่องใสและก็อิงไปกับเกมภาคต้นฉบับมากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุผลดังกล่าวเจ้า Klonoa จะไม่มองผอมบางเปรียวอย่างพิลึกอีกต่อไป เหมือนกับภาคสองที่เปลี่่ยนเท็กซ์พบร์และก็โมเดลใหม่ให้สอดคล้องกับเกมภาคแรกไปเลย

รีวิวเกมส์มาใหม่

มีนั่งรถยนต์เหมือง ขี่นกมอนสเตอร์ยักษ์ ครบถ้วน!

นอกเหนือจากนั้นยังมีโบนัสอื่นๆที่ใส่เข้ามาด้วย เริ่มจากโหมดการเล่นแบบง่ายที่ช่วยทำให้มือใหม่สามารถบันเทิงใจกับเกมแบบไม่ต้องวิตกกังวลความยากเนื่องจากหลายๆคนคงพอจะรู้ดีว่าตัวเกมต้นฉบับมีความท้าพอควร ซึ่งตัวโหมด Easy นี้จะปรับให้ Klonoa มีป๊อกไม่จำกัด รวมทั้ง HP ก็จะมากขึ้นมาแทบคูณสอง รวมถึงระยะทางของลูกกระสุนลมที่ยาวขึ้น นอกจากก็จะเป็นรับประทานพิเศษที่ให้เลือกแปลง แล้วก็ยังมีฟิลเตอร์ภาพคลาสสิกเหมือนกัน อ๋อที่สำคัญกว่านั้นเป็นเกมภาคแรกก็จะเล่นแบบ Co-op ได้แล้ว

เกมเพลย์

ในส่วนเกมเพลย์ยังคงให้ความเอาใจใส่กับประสบการณ์เริ่มแรก โน่นเป็นการตะลุยด่านข้างๆประสมประสานสามมิติ (หรือ 2.5D) แบบแบ่งฉาก โดยความสะดุดตาของ Klonoa มิได้มีเพียงแค่เรื่องดินแดนที่ความฝันที่ดีไซน์มาให้มองน่าติดตามรวมทั้งมีชีวิตชีวาเพียงแค่นั้น แต่ยังมีทางหรือประตูลับต่างๆด้วย ซึ่งจำเป็นจะต้องอาศัยการตามหาเอาเอง หรือตอกไข่ตามทางเพื่อช่วยเพื่อนพ้องที่ถูกจับไปแนวทางก็คือใช้ปืนลมยิงใส่ศัตรูเพื่อดูดเข้ามาหาตัวแล้วหลังจากนั้นก็โยนใส่ไข่พวกนั้นซะ รวมทั้งถ้าหากว่าพวกเราตอกครบก็จะได้โอกาสที่จะมีด่านลับโผล่ออกมาให้เล่น แต่ เมื่อกล่าวว่าเกมเพลย์ยังอย่างเดิม ซึ่งก็ถือได้ว่าผู้เล่นจะพบกับ Hitbox ระดับพระรอยดำของเหล่าศัตรูอ้วนกลมทั้งหลายแหล่ที่เดินไปๆมาๆตามฉาก ซึ่งโดยมากพวกเราก็เดินไปๆมาๆแบบข้างๆสิ่งเดียว จะไปกระโจนเหยียบมันก็มิได้นะ จำเป็นต้องใช้ปืนลมยิงเพื่อดูดแล้วปลดปล่อยใส่ศัตรูตัวอื่นไปเรื่อยเมื่อเล่นไปครู่หนึ่งก็จะพบบอสใหญ่ที่มีวิธีการต่อสู้แตกต่าง แต่ว่าก็จะปรับใช้ความสามารถของ Klonoa แล้วก็การใช้ปืนลม บางตัวบางทีก็อาจจะจำเป็นต้องดูดศัตรูมาแล้วยิงใส่ตูดฯลฯ

กราฟิก และก็ดนตรี

งานภาพของเกมนี้อย่างที่บอกกันก็คือภาคแรกได้รีมาสเตอร์ใหม่จากภาครีเมคบน Wii แต่ว่านำเอาโทนสีแล้วก็สไตล์จากเกมเริ่มแรกบน PS1 มาใส่เข้าไปใหม่ ซึ่งจากเดิมที่การรีเมคให้ภาพเบื้องหลังที่เหมือนจริงก็จะแปลงเป็นการ์ตูนสีจี๊ดจ๊าดขึ้นมาแทน นับว่าเรียกความ Nostalgia กลับมาเจริญมากมายและก็ Klonoa เวอร์ชั่นต้นฉบับก็เรียกว่าน่ารักกว่าตัวรีเมคสมัยนั้น แต่ว่าเบื้องหลังจะยังอ้างอิงจากภาครีเมคอยู่ ในช่วงเวลาที่ภาคสองจะเป็นการรีมาสเตอร์ใหม่ทีแรกก่อให้เกิดความสดใหม่กว่าเดิม และก็เมื่อมีการควบคุมที่ดีมากยิ่งกว่าภาคแรกอยู่รวมทั้งทำให้พวกเราบันเทิงใจกับภาคนี้มากยิ่งกว่ารวมทั้งมีความคิดว่าไม่เก่าจนถึงเหลือเกิน ดนตรีในเกมถ้าหากว่ากันตามจริงเว้นแต่ฉากแรกรวมทั้งดึงความ Nostalgia อะไรออกมามิได้นัก เนื่องจากว่าเพลงต้นฉบับมันออกจะหลอนหูอยู่แล้วด้วย ส่วนเสียงประกอบเองก็ดูเหมือนมีมากเกินไปมากมายไปหน่อยเพราะว่าเพียงแค่กดเลือกคำบัญชาก็ดังพอแล้ว มาในเกมปุบปับกระโจนหรือโดนดาเมจสักครั้งก็ร้องกันจนถึงพวกเราจำต้องย่นคิ้ว

แสนเสียดาย

ความโชคร้ายของเกมนี้ก็คือแม้ว่าจะเป็นการรีมาสเตอร์ แม้กระนั้นก็ดูราวกับว่าไม่มีการปรับแก้ในส่วนของเกมเพลย์สักเท่าไหร่ด้วยเหตุว่าย้ำไปที่เรื่องของกราฟิกกันแบบเพียวซึ่งตัวกราฟิกเองก็เสมือนจะมิได้กล่อมเกลามามากเท่าไรนักด้วย บางจุดก็มองกระโดดเหลือเกิน กลับมาที่เกมเพลย์อีกรอบ พวกเราจะมีความคิดเห็นว่าการควบคุมนั้นมองเก่ากึ๊กกันราวกับสมัย PS1 เลยในภาคแรกถึงแม้ว่าเคยรีเมคมาก่อนแล้ว โชคยังดีที่มีการช่วยเหลือเฟรมเรตลื่นทำให้มีความนำสมัยขึ้นมาบ้าง ในที่สุดเว้นเสียแต่เกมหลักและก็ไม่มีคอนเทนต์อะไรเพิ่มเข้ามาให้มองน่าดึงดูดนัก

ข้อสรุป

ฉันใดก็ฉันนั้น นี่เป็นช่องทางอันดีที่แฟนคลับจะได้แสดงพลังส่งเสริมให้ Klonoa ได้กลับมาต่อสู้กับซีรีส์เกมสไตล์ตะลุยด่านกันอีกในอนาคต ซึ่งหากแม้ตัวเกมเพลย์บางทีก็อาจจะขยักขย่อนไม่ลื่นไหลราวกับเกมช่วงปัจจุบัน แม้กระนั้นก็เล่นกันได้เพลิดเพลินด้วยเหตุว่าทั้งคู่เกมมีขนาดความยาวที่แก้เบื่อเจริญเลย ยิ่งมีการเพิ่มโหมด Co-op ให้ภาคแรกอย่างนี้ ก็มองเหมาะสมดีที่จะเป็นเกมสำหรับผู้ใดกันแน่ที่ต้องการชักชวนเพื่อนพ้องมาหวนเรื่องในอดีตสมัย 90 กัน