ท่องเที่ยวเริ่มสดใส บางกอกแอร์เวย์สคาด ปีนี้อาจพลิกกลับมา ‘กำไร’ ได้

ท่องเที่ยวเริ่มสดใส บางกอกแอร์เวย์สคาด ปีนี้อาจพลิกกลับมา ‘กำไร’ ได้
หลังสถานการณ์โรคระบาดเริ่มคลี่คลาย อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของปี 2565 ทั้งทั่วโลกและไทยดูเหมือนจะเริ่มสดใสขึ้นและต่อเนื่องมาจนถึงปีนี้ โดยสายการบินอย่าง ‘บางกอกแอร์เวย์ส’ ตั้งเป้ารายได้จากผู้โดยสารในปีนี้ 15,000 ล้านบาท รวมเที่ยวบินกว่า 48,000 เที่ยวบิน ผู้โดยสารกว่า 4.4 ล้านคน และคาดว่าบริษัทอาจจะ “พลิกกลับมาทำกำไร” ได้
‘พุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ’ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เจ้าของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส กล่าวว่า หลังจากเปิดประเทศตั้งแต่ปีที่แล้ว การเดินทางในทั่วโลกก็เริ่มขยับมากขึ้น อุตสาหกรรมการบินค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้นหลังจากโควิดคลี่คลายโดยในประเทศไทย ผู้เดินทางในประเทศกลับมาได้เร็วกว่าต่างประเทศ โดยในไตรมาส 4/2565 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวไทยถึง 5.5 ล้านคน รวมทั้งปีกว่า 11.8 ล้านคน ค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ
โดยในส่วนของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส พบว่ายอดจองบัตรโดยสารเพิ่มขึ้นตั้งแต่ในช่วงเดือนกรกฎาคม 2565 เป็นต้นมา ทั้งการเดินทางในประเทศ และระหว่างประเทศ ส่งผลให้ภาพรวมบางกอกแอร์เวย์สในปีที่แล้วดีขึ้นด้วย ดังนี้
-ผู้โดยสารรวม 2.7 ล้านคน เพิ่มขึ้น 394.8%
-จำนวนเที่ยวบินให้บริการรวม 29,892 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 243.8%
ภาพรวมของจำนวนผู้โดยสารของปี 2565 อยู่ที่ระดับ 45% ของปี 2562 โดยมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายไตรมาสที่ 3 และแตะระดับที่ 65% ของช่วงก่อนโควิดในเดือนธันวาคม\
สำหรับในปีนี้คาดการณ์ว่าปริมาณผู้โดยสารจะอยู่ที่ 70-80% ของปี 2562 จากปัจจัยความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวที่ยังคงแข็งแกร่ง และการเปิดประเทศของหลายๆ ประเทศ และผ่อนปรนนโยบายการเดินทางช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องพุฒิพงศ์บอกอีกว่า ปัจจุบันให้บริการเที่ยวบินเส้นทางภายในประเทศ 15 เส้นทาง เส้นทางระหว่างประเทศ 7 เส้นทาง (โดยกำลังเตรียมความพร้อมเพื่อเปิดเส้นทางไปจีนอีก 2 เส้นทางในช่วงกลางปี)
บริษัทวางเป้าหมายในปี 2566 ในการดึงนักท่องเที่ยวไทย-ต่างชาติเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศไทยและในภูมิภาครวมกว่า 4.4 ล้านคนซึ่งจะโฟกัสไปที่การทำตลาดต่างประเทศแบบเชิงรุก เพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศให้กลับมาแตะระดับ 60% ให้ได้ จากที่ช่วงปลายปีที่ผ่านมามีสัดส่วนราว 50% ส่วนช่วงก่อนโควิดนั้นสูงถึง 80% ทั้งนี้ บางกอกแอร์เวย์สตั้งเป้ารายได้ผู้โดยสาร 15,000 ล้านบาท รวมเที่ยวบินกว่า 4.8 หมื่นเที่ยวบิน อัตราการขนส่งผู้โดยสารอยู่ที่ 76% หรือคิดเป็นราคาตั๋วเฉลี่ยที่ 3,400 บาท
“สถานการณ์ท่องเที่ยวปีนี้เริ่มสดใส โดยช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ที่ผ่านมานั้นภาพรวมดีกว่าที่เราคิดไว้ ทำให้เรามั่นใจว่าจะทำรายได้เป็นไปตามเป้า และอาจจะพลิกกลับมาทำกำไรได้ด้วย”
นายอนวัช ลีละวัฒน์วัฒนา รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโสสายงานการเงินและบัญชี กล่าวว่า ผลการดำเนินงานปี 2565 บริษัทฯ มีรายได้รวมเท่ากับ 12,742.1 ล้านบาท เทียบกับปี 2564 เพิ่มขึ้นร้อยละ 124.8 ซึ่งมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการจำหน่ายบัตรโดยสารร้อยละ 609.8 รายได้จากธุรกิจสนามบินร้อยละ 465.4 และรายได้จากธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจสนามบินร้อยละ 71.6 จากการกลับมาปฏิบัติการบินของสายการบินต่าง ๆบริษัทฯ มีผลขาดทุนจากการดำเนินงาน 889.3 ล้านบาท ขาดทุนลดลงจากปี 2564 จำนวน 1,643.2 ล้านบาท หรือร้อยละ 64.9
“ในปี 2565 บริษัทฯ ย่อยของบริษัทฯในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ได้จัดตั้งกองทรัสต์และนำทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์สนามบินการบินกรุงเทพ (BA Airport Real Estate Investment Trust: BAREIT) ซึ่งเป็นกองทรัสต์ธุรกิจสนามบินกองแรกของประเทศไทย เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในวันที่ 14 กันยายน 2565 โดยมีมูลค่าการระดมทุน 14,300 ล้านบาท
ในปี 2565 ที่ผ่านมาสนามบินสมุยมีแนวโน้มของปริมาณเที่ยวบินและจำนวนผู้โดยสารที่มาใช้บริการเพิ่มสูงขึ้น โดยมียอดขนส่งผู้โดยสารรวมทั้งสิ้นกว่า 1.3 ล้านคน และมีจำนวนเที่ยวบินใช้บริการรวมทั้งสิ้นกว่า 15,000 เที่ยวบิน เพิ่มสูงขึ้นอย่างเป็นนัยสำคัญเมื่อเทียบกับปี 2564 ซึ่งถึงแม้ว่าจำนวนเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้นอาจจะไม่เทียบเท่ากับช่วงก่อนที่จะมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่เป็นสัญญาณดีที่แสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวอย่างชัดเจนในภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวภายในประเทศไทย”
ด้านความคืบหน้าของโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาฯ บริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด หรือ UTA ผู้รับสัมปทานโครงพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ได้มีการเตรียมความพร้อมในด้านการออกแบบวางแผนงาน และการจัดสรรบุคลากร ตลอดจนถึงการเตรียมงานด้านการก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมความพร้อมได้อย่างทันท่วงทีเมื่อได้รับการลงนามในสัญญาด้านการส่งมอบพื้นที่สำหรับการก่อสร้างในอนาคตทั้งนี้ ในปีที่แล้วต้นทุนอย่างหนึ่งที่มีผลต่อสายการบินก็คือราคาน้ำมัน ที่ดีดตัวสูงขึ้นจากผลกระทบของสงครามรัสเซีย-ยูเครน ขณะที่ในปีนี้ราคาน้ำมันค่อยๆ ปรับตัวลดลง ซึ่งถ้ายังปรับตัวลดลงอีกก็จะส่งผลดีต่อต้นทุนค่าใช้จ่ายของธุรกิจสายการบินด้วย พุฒิพงศ์ยังบอกอีกว่า ปัจจุบันบางกอกแอร์เวย์สมีเครื่องบินอยู่ 32 ลำ นำมาใช้จริงๆ 20-22 ลำ ที่เหลืออยู่ระหว่างซ่อมบำรุงซึ่งใช้เวลานานเนื่องจากซัพพลายอะไหล่เครื่องบินขาดแคลน